Ads Relevance Score ค่านี้หลายคนไม่รู้จักมันคืออะไร แล้วมันจะทำให้โฆษณาที่เราลงกับ Facebook ถูกอย่างไร วันนี้ผมมีคำตอบครับ
Ads Relevance Score เป็นค่าใหม่ที่ Facebook กำหนดขึ้นมาเพื่อ เช็คว่าโฆษณาของเรามีคุณภาพหรือไม่ คำว่าคุณภาพของ Relevance Score หมายถึง โฆษณาที่ลงสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายรึไม่ และกลุ่มเป้าหมายนั้นได้ Feedback กับโฆษณาเราอย่างไร ซึ่ง Relevance Score มีค่าตั้งแต่ 1 ถึง 10 โดย 1 หมายถึงแย่มาก 10 ดีมาก
แล้ว Relevance Score ใครเป็นคนให้คะแนน? คำตอบคือระบบของ Facebook ครับ โดยระบบจะวิเคราะห์จาก ความสมบูรณ์ของโฆษณา และ Feedback ของกลุ่มเป้าหมาย สรุปออกมาเป็นคะแนนนั้นเอง
รูปตัวอย่างด้านบน
- รูปแรก ได้คะแนน 2/10 : เหตุผลที่ได้คะแนนน้อยคือ กลุ่มเป้าหมายกว้างไป รูปภาพไม่ชัด รายละเอียดของคอนเทนต์น้อยไป และไม่มีปุ่ม Call to Action ว่าโฆษณานี้ให้ทำอะไร
- รูปที่สอง ได้คะแนน 5/10 : เหตุผลที่ได้น้อยคือ กลุ่มเป้าหมายยังกว้างไป คอนเทนต์ใส่รายละเอียดไม่ครบ และไม่มีปุ่ม Call to Action
- รูปสุดท้าย ได้ 8/10 : เหตุผลที่ได้เยอะเพราะ ใส่รายละเอียดครบ กลุ่มเป้ามหมายกำหนดชัดเจน พร้อมใส่ Interest รวมถึงรายละเอียด และปุ่ม Call to Action ครบ
อีก 2 คะแนนที่หายไป คาดว่าจะอยู่ที่ Feedback และ Performance ของ Ads นั้นๆ อย่างเคสของผม เบื้องต้นหลังเซ็ต Ads เสร็จรันไปได้สักพัก ผมได้ 8/10 คะแนน แต่รันไปสักพัก Performance ดี CTR สูง CPI (Cost per like) ต่ำลงเรื่อยๆ ผ่านไป 3 วัน Relevance Score ผมขึ้นมาเป็น 9/10
Relevance Score ไม่ใช่ทุกอย่างแต่ก็ช่วยได้เยอะ
อย่าเข้าใจผิดว่าค่านี้คือทุกอย่าง หรือต้องให้ความสำคัญมันมากที่สุด เพราะ Facebook Ads มีหลายค่าที่สำคัญ ผมอยากให้คุณมองที่ Objective ก่อนเป็นหลักว่าเรากำลังลงโฆษณาเพื่ออะไร แล้วหน่วยชี้วัดอะไรสำคัญสำหรับ Objective นี้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำธุรกิจขายพิซซ่า Facebook Ads ทำหน้าที่คือ ส่งคนที่ใช่ มายังเว็บของคุณเพื่อสั่งอาหาร ถ้า Relevance Score บอกว่าคุณได้ 7/10 แต่เว็บของคุณลูกค้าสั่งเยอะมากหลังจากลง Ads ตัวนี้ ฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องปิด Ads แล้วลงใหม่เพื่อให้ได้คะแนน 10/10 เพราะปลายทาง คุณได้ลูกค้าตามเป้าที่กำหนดไว้แล้ว
Relevance Score เป็นเพียงแค่ตัวชี้วัดว่า ถ้ายิ่ง Score สูง หมายความว่าโฆษณาโชว์ตรงกลุ่มเป้าหมายสุดๆ ทำให้โฆษณาถูกลง แล้วทำไมโฆษณาถึงถูกลง? ก็เพราะคนเห็นโฆษณาน้อยลงค่าโฆษณาก็ถูกลง กลับกันคนเห็นน้อยลง แต่ตรงกลุ่มสุดๆ แบบนี้เขาเรียกว่าวินๆ
เรายอมที่จะเสียเวลาปรับแต่ง Ads นิดหน่อย เพื่อแลกกับ กลุ่มเป้าหมายที่ใช่ และค่าโฆษณาที่ถูกลง ส่วน Facebook ก็ไม่ถูกด่า ว่ามีแต่โฆษณาอะไรก็ไม่รู้อีกด้วย หรือเราจะใช้ค่า Relevance Score เพื่อทดสอบความ Creative ของ Ads และทดสอบกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ก็ได้เช่นกัน
หวังว่าต่อไปนี้ก่อนลง Facebook Ads ทุกคนคงไม่งงกับค่า Relevance Score กันแล้วนะครับ สำหรับบทความต่อไปผมมีทิปการปรับแต่ง Facebook Ads ให้ได้เกณฑ์ Relevance Score ที่สูง
2 Comments