บทความนี้ผมได้สรุปจากการบรรยายจากหลักสูตร DNAbySPU (Digital Network Advantage) โดย ดร.ไอซ์ (iczzz.com)
ดร.ไอซ์ได้เล่าว่าทุกวันนี้หลายคนเข้าใจผิดว่า Digital คือการใช้ Social Media การใช้ Facebook, IG แต่ความเป็นจริง Online เป็นอะไรที่มากกว่านั้น โดยผมขอสรุปเป็น 30 ข้อคิดเพื่อง่ายต่อการอ่านกัน
- ปัจจุบันการเห็น (Organic Reach) บน Social Media หรือ Facebook อยู่ที่ 1%
- 47 ล้านคนที่ใช้ Facebook ไม่น่าจะใช้ตัวเลขคนไทยจริงๆ ทั้งหมด แต่ยังมีแรงงานต่างด้าว และพวก Click Farm (เจ้าของคนเดียวแต่สมัคร Facebook หลายไอดี) อีกหลายสิบล้านคน
- ก่อนเรียนรู้การใช้เครื่องมือ Social Media ต่างๆ เราต้องรู้เรื่องพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายก่อน
- การใช้ Social Media เราต้องสร้าง Micro Moment หรือเรียกว่า”การสร้างคุณค่า” เพื่อเชื่อมโยงกับแบรนด์ มากกว่าการ เพิ่มคุณค่าในรูปแบบเดิมๆ
- Tailor Brands (Tailorbrands.com) คือเว็บที่ช่วยออกแบบ Brand CI ให้กับเราได้ง่ายๆ
- Word Of Mouth หรือการบอกต่อ สมัยก่อนถูกจำกัดด้วย พื้นที่ แต่ปัจจุบันกำแพงนั้นได้ทลายลงไปแล้วด้วยสื่อ Social Media
- คนในยุคนี้ เขาเชื่อ “ใครๆ” (เค้าบอกว่า, คนนั้นแนะนำมา) และเราก็มักจะเชื่อ ใครๆ เหมือนกันหมด แต่สิ่งที่เรา (แบรนด์) ควรทำคือ ควรเป็น ใครๆ คนนั้น เพื่อให้คนอื่นพูดถึง
- จาก Word of mouth ทุกวันนี้ กลายเป็น World of Mouth ไปแล้ว เรื่องที่เกิดจากมุมโลกนึง กลายเป็นกระแสของอีกมุมโลกนึงไปแล้ว
- Big data คือข้อมูลที่เกิดขึ้นจำนวนมาก, รวดเร็ว และหลากหลาย แต่การที่จะเราใช้ประโยชน์จาก Data ที่ได้มา เราต้องใช้ควบคู่กับ Data Science โดยเคสที่นำ Big Data และ Data Science มาใช้ได้เห็นภาพมากที่สุดคือ Project Alamo ที่ทรัมป์ นำมาใช้ต่อสู้กับ ฮิลลารี เลือกตั้ง ปธน สหรัฐอเมริกาล่าสุด
- Freemium คือการให้ใช้ฟรีจนถึงจุดหนึ่ง แล้วสุดท้ายถ้าเราชอบในบริการ / สินค้า เราถึงจ่ายเงิน
- ZMOT (Zero Moment of Truth) คือรูปแบบการตัดสินใจก่อนที่จะซื้อสินค้า เช่น การค้นหาสินค้า การอ่านรีวิว โดย 3 ขั้นตอนง่ายๆ สำหรับการสร้างความเชื่อมโยงตั้งแต่เห็นจนปิดการขาย คือ
- ใช้คำง่ายๆ ในการเชื่อมโยง
- Search ผิดก็ต้องเจอ
- ปิดการขายให้ได้
- วิธีหาคำฮิตที่เกิดขึ้นบนออนไลน์ ให้เราลองไปดูที่คอมเมนต์ของเพื่อนๆ หรือคอมเมนต์ในเพจดารา
- การถ่ายภาพบนออนไลน์ต้องให้ดูรู้สึกแพง แต่ต้องเข้าถึงได้ แนะนำให้ลองไปดูที่เว็บ Cereal, kinfolk
- การใช้ Filer สำหรับแต่งรูปภาพ ถ้าเราเป็น Brand ต้องใช้รูปแบบเดียวกันทั้งหมด (เพื่อให้เกิดภาพจำ)
- แอพ Over สามารถให้เราใส่ลายน้ำหรือ Logo ในรูปภาพได้เลย
- แอพ “InfoGraphic and Poster” หรือเว็บ Piktocharts.com หรือ infogr.am สามารถทำให้คุณสร้าง Infographic ได้ง่ายๆ
- Template Clip วิดีโอ สวยๆ สามารถหาได้ที่เว็บ Videoblocks.com หรือแอพ Flipgram
- ถ้าต้องการจะโพสต์เพลงที่ติดลิขสิทธิ์แนะนำให้โพสต์ไม่เกิน 15 วินาที จะสามารถขึ้นได้ไม่โดนบล็อค
- Jukedeck.com คือเว็บที่ให้เราแต่งเพลงของตนเองขึ้นมาได้
- Facebook ก่อนการยิงโฆษณา ให้เราใส่ใจเรื่องการทำคอนเทนต์ก่อน
- Canva.com เว็บที่ทำให้คุณออกแบบ Template ของ Facebook ได้ทั้งหมด
- Coverr.co เว็บที่ทำให้คุณหา Footage สำหรับทำ VDO คอนเทนต์ได้ง่ายๆ
- รูปแบบการตั้งชื่อ Facebook Page ควรใส่ชื่อแบรนด์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ Keyword Concept เข้าไปด้วย โดย Keyword Concept คือ KEYWORD + LOCATION
- การจัดระเบียบคอนเทนต์ที่อยู่ใน Profile, Cover Photo คือ 1.Brand 2.รายละเอียด 2-3 บรรทัด 3.Line (url) 4.Website 5.Tel 6.Instagram 7.Youtube 8.Link Pdf 9.Google Map
- Size ที่ควรออกแบบสำหรับ PDF ควรออกแบบเป็นขนาด A4
- การตอบคำถามลูกค้าควรเลือกตอบคำถามใน 1 ช่องทาง เราเลือกว่าจะ Facebook Inbox หรือ LINE โดยแนะนำให้ใช้ไลน์
- Instagram ปัจจุบันคนไทยโพสต์น้อยลง แต่นิยมมาโพสต์ที่ Story มากขึ้น
- ไอซ์ แนะนำว่าลงโฆษณาผ่าน Instagram Story จะได้ความนิยมมากในช่วงนี้
- แอพ Photofox ไว้ใช้สำหรับทำคอนเทนต์ IG Story
- ข้อดีของ #Hashtag นอกจากการแบ่งกลุ่มคอนเทนต์ คุณสามารถใช้ #Hashtag เพื่อทำ #keyword บน IG ได้อีกด้วย เช่น #ของขวัญแต่งงาน #ของขวัญวันเกิด